ความสัมพันธ์ระหว่างมิติทางบุคลิกภาพและความก้าวร้าวทางไซเบอร์: บทบาทการเป็นตัวแปรสื่อกลาง ของการติดไซเบอร์ และการเป็นตัวแปรกำกับของอารมณ์ทางจริยธรรม

วิไลวรรณ ศรีสงคราม
{"title":"ความสัมพันธ์ระหว่างมิติทางบุคลิกภาพและความก้าวร้าวทางไซเบอร์: บทบาทการเป็นตัวแปรสื่อกลาง ของการติดไซเบอร์ และการเป็นตัวแปรกำกับของอารมณ์ทางจริยธรรม","authors":"วิไลวรรณ ศรีสงคราม","doi":"10.55766/mhzf4416","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"การศึกษานี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมิติทางบุคลิกภาพและความก้าวร้าวทางไซเบอร์โดยมีการติดไซเบอร์เป็นตัวแปรสื่อกลางและมีอารมณ์ทางจริยธรรมเป็นตัวแปรกำกับ  กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษา 870 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย แบบทดสอบมิติทางบุคลิกภาพ 3 มิติ ได้แก่ ลักษณะความเป็นชาย  ลักษณะความเป็นหญิง และความหุนหันพลันแล่น  แบบวัดการติดไซเบอร์  แบบวัดความก้าวร้าวทางไซเบอร์ และแบบวัดอารมณ์ทางจริยธรรม ใช้การวิเคราะห์ตัวแปรสื่อกลางและตัวแปรกำกับด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS Process  ผลพบว่า    (1) ความสัมพันธ์ระหว่างมิติทางบุคลิกภาพและความก้าวร้าวทางไซเบอร์มีตัวแปรสื่อกลาง คือ การติดอินเทอร์เน็ตและการติดเกม  (2) ความสัมพันธ์ระหว่างความหุนหันพลันแล่นและความก้าวร้าวทางไซเบอร์ในเพศชายและเพศหญิงมีตัวแปรกำกับคือ ความรู้สึกผิด  แต่มีทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน  (3) ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะความเป็นชายและความก้าวร้าวทางไซเบอร์ มีความละอายแก่ใจเป็นตัวแปรกำกับเฉพาะในเพศหญิง  (4) ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะความเป็นหญิงและความก้าวร้าวทางไซเบอร์  มีทั้งความรู้สึกผิดและความละอายแก่ใจเป็นตัวแปรกำกับเฉพาะในเพศชาย  ผลลัพธ์เหล่านี้ได้เสนอแนะว่าความสัมพันธ์ระหว่างความหุนหันพลันแล่นและความก้าวร้าวทางไซเบอร์ของเพศหญิงจะลดลงได้เมื่อมีการกำกับจากความรู้สึกผิด  นอกจากนี้  ลักษณะความเป็นหญิงยังเป็นตัวหน่วงเหนี่ยวทั้งการติดไซเบอร์และความก้าวร้าวทางไซเบอร์ได้มากกว่าอารมณ์ทางจริยธรรม  ซึ่งสะท้อนว่า  อารมณ์ทางจริยธรรมมีความสามารถที่จำกัดในการลดความก้าวร้าวทางไซเบอร์ในระหว่างเส้นทางลักษณะความเป็นชาย-ความก้าวร้าวทางไซเบอร์ และลักษณะความเป็นหญิง-ความก้าวร้าวทางไซเบอร์","PeriodicalId":145995,"journal":{"name":"Suranaree Journal of Social Science","volume":"47 1","pages":"0"},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2022-05-12","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Suranaree Journal of Social Science","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.55766/mhzf4416","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0

Abstract

การศึกษานี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างมิติทางบุคลิกภาพและความก้าวร้าวทางไซเบอร์โดยมีการติดไซเบอร์เป็นตัวแปรสื่อกลางและมีอารมณ์ทางจริยธรรมเป็นตัวแปรกำกับ  กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษา 870 คน ใช้วิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ ประกอบด้วย แบบทดสอบมิติทางบุคลิกภาพ 3 มิติ ได้แก่ ลักษณะความเป็นชาย  ลักษณะความเป็นหญิง และความหุนหันพลันแล่น  แบบวัดการติดไซเบอร์  แบบวัดความก้าวร้าวทางไซเบอร์ และแบบวัดอารมณ์ทางจริยธรรม ใช้การวิเคราะห์ตัวแปรสื่อกลางและตัวแปรกำกับด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS Process  ผลพบว่า    (1) ความสัมพันธ์ระหว่างมิติทางบุคลิกภาพและความก้าวร้าวทางไซเบอร์มีตัวแปรสื่อกลาง คือ การติดอินเทอร์เน็ตและการติดเกม  (2) ความสัมพันธ์ระหว่างความหุนหันพลันแล่นและความก้าวร้าวทางไซเบอร์ในเพศชายและเพศหญิงมีตัวแปรกำกับคือ ความรู้สึกผิด  แต่มีทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน  (3) ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะความเป็นชายและความก้าวร้าวทางไซเบอร์ มีความละอายแก่ใจเป็นตัวแปรกำกับเฉพาะในเพศหญิง  (4) ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะความเป็นหญิงและความก้าวร้าวทางไซเบอร์  มีทั้งความรู้สึกผิดและความละอายแก่ใจเป็นตัวแปรกำกับเฉพาะในเพศชาย  ผลลัพธ์เหล่านี้ได้เสนอแนะว่าความสัมพันธ์ระหว่างความหุนหันพลันแล่นและความก้าวร้าวทางไซเบอร์ของเพศหญิงจะลดลงได้เมื่อมีการกำกับจากความรู้สึกผิด  นอกจากนี้  ลักษณะความเป็นหญิงยังเป็นตัวหน่วงเหนี่ยวทั้งการติดไซเบอร์และความก้าวร้าวทางไซเบอร์ได้มากกว่าอารมณ์ทางจริยธรรม  ซึ่งสะท้อนว่า  อารมณ์ทางจริยธรรมมีความสามารถที่จำกัดในการลดความก้าวร้าวทางไซเบอร์ในระหว่างเส้นทางลักษณะความเป็นชาย-ความก้าวร้าวทางไซเบอร์ และลักษณะความเป็นหญิง-ความก้าวร้าวทางไซเบอร์
查看原文
分享 分享
微信好友 朋友圈 QQ好友 复制链接
本刊更多论文
人格维度和网络攻击性之间的关系:角色扮演、网络成瘾的媒介变量和道德情感的指导变量。
该研究的目的是研究以网络成瘾为变量的人格维度和网络攻击性之间的关系。根据调查结果,调查对象包括男性、女性和冲动、网络成瘾和道德行为,使用SPSS预设变量和变量。男性化和网络攻击性之间的关系是男性化和男性化的相关变量,女性化和网络攻击性之间的关系是男性化的。此外,女性的行为更多的是网络成瘾和网络攻击性,而不是道德情感。这反映了道德情感障碍在男性-网络攻击性和女性-网络攻击性之间的能力有限。
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。
求助全文
约1分钟内获得全文 去求助
来源期刊
自引率
0.00%
发文量
0
期刊最新文献
Nietzsche as Metaphysician Structural Equation Modeling of Food Safety Standard in the Cassava Industry in Thailand Implementing a Portfolio-based Learner Autonomy Development Model in an EFL Writing Course Causal Factors Influencing Development of Organizational Survival for Companies Listed in Thailand Intercultural Language Education: Supportive Factors and Constraints on EFL Learners’ Intercultural Communicative Competence Development
×
引用
GB/T 7714-2015
复制
MLA
复制
APA
复制
导出至
BibTeX EndNote RefMan NoteFirst NoteExpress
×
×
提示
您的信息不完整,为了账户安全,请先补充。
现在去补充
×
提示
您因"违规操作"
具体请查看互助需知
我知道了
×
提示
现在去查看 取消
×
提示
确定
0
微信
客服QQ
Book学术公众号 扫码关注我们
反馈
×
意见反馈
请填写您的意见或建议
请填写您的手机或邮箱
已复制链接
已复制链接
快去分享给好友吧!
我知道了
×
扫码分享
扫码分享
Book学术官方微信
Book学术文献互助
Book学术文献互助群
群 号:481959085
Book学术
文献互助 智能选刊 最新文献 互助须知 联系我们:info@booksci.cn
Book学术提供免费学术资源搜索服务,方便国内外学者检索中英文文献。致力于提供最便捷和优质的服务体验。
Copyright © 2023 Book学术 All rights reserved.
ghs 京公网安备 11010802042870号 京ICP备2023020795号-1