{"title":"พฤติกรรมของผู้สูงอายุ และการจัดการพื้นที่เพื่อผู้สูงอายุในห้างสรรพสินค้า กรณีศึกษา: เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ และจตุรัสจามจุรีสแควร์","authors":"Trirat Jarutach, Patnalin Lerddamrongchai, Nutcha Lertpradit","doi":"10.56261/jars.v21.250702","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"ประเทศไทยกลายเป็นสังคมสูงอายุมาตั้งแต่ปี 2548 และกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ ประกอบกับกระแส Urbanization ที่ทำให้เมืองอย่างกรุงเทพมหานครกลายเป็นศูนย์รวมผู้คน ประชากรเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองกันมากขึ้น รวมถึงผู้สูงอายุด้วย ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในเมืองจำนวนมากนิยมเดินทางมารวมกลุ่มกันในห้างสรรพสินค้า ทั้งเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ และพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง งานวิจัยนี้จึงต้องการศึกษาข้อมูลด้านประชากร สังคม เศรษฐกิจ สุขภาพ และพฤติกรรมของผู้สูงอายุที่เข้ามาใช้พื้นที่ในห้างสรรพสินค้า รวมถึงเพื่อศึกษาลักษณะทางกายภาพภายในห้างสรรพสินค้าโดยอ้างอิงตามหลักเกณฑ์ตามกฎกระทรวงกำหนดสิ่งอำนวยความสะดวกในอาคารสำหรับผู้พิการหรือทุพพลภาพ และคนชรา พ.ศ. 2548 และเพื่อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้สูงอายุ โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง และการสำรวจพื้นที่จริงในโครงการกลุ่มตัวอย่าง 2 แห่ง ได้แก่ MBK Center และ Chamchuri Square
 จากการวิจัยพบว่า จุดเด่นของห้างสรรพสินค้าที่ดึงดูดให้ผู้สูงอายุเข้ามาใช้งาน คือ ทำเลที่ตั้ง โดยห้างสรรพสินค้าในเมืองมักจะเดินทางได้สะดวกด้วยบริการรถโดยสารสาธารณะ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการพื้นที่ในห้างสรรพสินค้าเป็นผู้สูงอายุตอนต้น (อายุ 60-69 ปี) มักรวมตัวกันบริเวณที่มีที่นั่งจำนวนมากและไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาในการนั่ง เช่น บริเวณศูนย์อาหาร กิจกรรมที่ทำคือ การนั่งรวมกลุ่มพูดคุยกับเพื่อนฝูง เดินซื้อของ และนั่งพักผ่อนหย่อนใจ
 พื้นที่เชิงกายภาพของห้างสรรพสินค้า ในภาพรวมมีการจัดการพื้นที่ที่ดีเหมาะสมสำหรับการใช้งานของผู้สูงอายุ มีทางลาด บันไดเลื่อน และลิฟต์ให้บริการอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้มีข้อเสนอแนะในบางจุดเพื่อให้ทางผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมต่อไป ได้แก่ รูปแบบประตูควรปรับให้เป็นบานเลื่อนพร้อมระบบเซ็นเซอร์อัตโนมัติทั้งหมด และในบางพื้นที่ควรจัดทำห้องน้ำแยกสำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ใช้รถเข็นโดยเฉพาะ นอกจากนี้ เนื่องจากมีผู้สูงอายุนิยมใช้งานพื้นที่บริเวณศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้าเป็นจำนวนมาก ทางผู้ประกอบการอาจพิจารณาจัดพื้นที่แยกโดยเฉพาะให้สำหรับผู้สูงอายุ เพื่อสร้างจุดขายในเชิงรุกให้กับห้างสรรพสินค้าต่อไป","PeriodicalId":496376,"journal":{"name":"Journal of Architectural/Planning Research and Studies (JARS)","volume":"2 3","pages":"0"},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2023-10-25","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Journal of Architectural/Planning Research and Studies (JARS)","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.56261/jars.v21.250702","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0
案例研究:MBK中心和Jamong广场
泰国从2005年起就成为了一个老龄化社会,随着曼谷的崛起,人口越来越多地聚集在城市里,包括老年人。根据2005年国务院的规定,研究商场内的身体状况,并提出改善老年人使用空间的建议。在2个样本项目中,MBK中心和Chamchuri square为 x0d;研究表明,吸引老年人使用的购物中心的主要特点是它的位置。大多数在购物中心使用公共交通工具的老年人(60-69岁)都是在有很多座位的地方聚会,没有时间限制,比如在美食广场。总体来说,商场的物理空间管理得很好,适合老年人使用,有坡道、自动扶梯和电梯,但本研究在某些方面提出了一些建议,以便商场经营者进一步优化。在某些地区,专门为老年人或轮椅使用者提供单独的浴室。此外,由于老年人普遍使用百货公司的食品中心区域,经营者可能会考虑为老年人安排一个单独的区域,以进一步为商场创造一个积极的销售点。
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。