ความรู้และทัศนคติกับการใช้กัญชาในอาหารของผู้ประกอบการตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี

จีราภา ประพันธมิตร, เจนจิรา เหลืองอ่อน, สุรัสวดี สินวัต
{"title":"ความรู้และทัศนคติกับการใช้กัญชาในอาหารของผู้ประกอบการตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี","authors":"จีราภา ประพันธมิตร, เจนจิรา เหลืองอ่อน, สุรัสวดี สินวัต","doi":"10.60027/iarj.2024.276242","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: จากการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาทำให้เกิดโอกาสในการใช้กัญชาทางแพทย์และเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แต่ละพื้นที่มีการนำกัญชามาใช้ในธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร มีการใช้กัญชาเป็นส่วนผสมของอาหาร ทำให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาเพิ่มมากขึ้นทั้งยังมีช่องว่างของข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการนำกัญชามาใช้ของผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้และทัศนคติกับการใช้กัญชาในอาหารของผู้ประกอบการ\nระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง ดำเนินการวิจัยในช่วงเดือนมกราคม 2566 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหัวโกรก ตำบลหนองรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 16 คน ที่คัดเลือกแบบเจาะจง เก็บรวบรวมข้อมูลแบบผสมผสาน ข้อมูลเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามและข้อมูลเชิงคุณภาพใช้แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ\nผลการวิจัย: ผู้ประกอบการมีความรู้เกี่ยวกับกัญชาโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง มีทัศนคติเกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างเป็นกลาง ผลจากการสัมภาษณ์การใช้กัญชา พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่ใช้กัญชาในการประกอบอาหาร เพราะอันตรายจากกัญชาต่อลูกค้าในแต่ละกลุ่มวัย กัญชาเป็นสารเสพติดและขอบเขตของกฎหมายไม่ชัดเจน อาหารขายดีเป็นเรื่องของฝีมือการปรุงอาหารไม่ใช่การตลาดจากการใช้กัญชาไม่ควรนำมาใส่อาหาร และการใช้ประโยชน์ของกัญชาด้านอื่นๆ\nสรุปผล: ควรมีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชาให้มากขึ้น และมีการบังคับใช้นโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับปริมาณการใช้กัญชาในอาหาร เพื่อป้องกันการใช้กัญชาที่ไม่เหมาะสม","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":" 26","pages":""},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2024-06-07","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":null,"platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276242","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0

Abstract

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: จากการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาทำให้เกิดโอกาสในการใช้กัญชาทางแพทย์และเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น แต่ละพื้นที่มีการนำกัญชามาใช้ในธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร มีการใช้กัญชาเป็นส่วนผสมของอาหาร ทำให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาเพิ่มมากขึ้นทั้งยังมีช่องว่างของข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการนำกัญชามาใช้ของผู้ประกอบการธุรกิจอาหาร การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้และทัศนคติกับการใช้กัญชาในอาหารของผู้ประกอบการ ระเบียบวิธีการวิจัย: การวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง ดำเนินการวิจัยในช่วงเดือนมกราคม 2566 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหัวโกรก ตำบลหนองรี อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 16 คน ที่คัดเลือกแบบเจาะจง เก็บรวบรวมข้อมูลแบบผสมผสาน ข้อมูลเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามและข้อมูลเชิงคุณภาพใช้แบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผลการวิจัย: ผู้ประกอบการมีความรู้เกี่ยวกับกัญชาโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง มีทัศนคติเกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างเป็นกลาง ผลจากการสัมภาษณ์การใช้กัญชา พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่ใช้กัญชาในการประกอบอาหาร เพราะอันตรายจากกัญชาต่อลูกค้าในแต่ละกลุ่มวัย กัญชาเป็นสารเสพติดและขอบเขตของกฎหมายไม่ชัดเจน อาหารขายดีเป็นเรื่องของฝีมือการปรุงอาหารไม่ใช่การตลาดจากการใช้กัญชาไม่ควรนำมาใส่อาหาร และการใช้ประโยชน์ของกัญชาด้านอื่นๆ สรุปผล: ควรมีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชาให้มากขึ้น และมีการบังคับใช้นโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับปริมาณการใช้กัญชาในอาหาร เพื่อป้องกันการใช้กัญชาที่ไม่เหมาะสม
查看原文
分享 分享
微信好友 朋友圈 QQ好友 复制链接
本刊更多论文
ความรู้และทัศนคติกับการใช้กัญชาในอาหารของผู้ประกอบการตำบลหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์:จาการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาทำให้เกิดโอกาสในการใช้กัญชาทางแพทย์และเศรษฐกิจเพิ่มข้นแต่ละพื้นที่มีการนำกัญชามาใช้ในธุรกจต่างๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผูประกอบารธุรกจอาหาร มีการใช้กัญชาเป็นส่วนผสมขงอาหารทำให้าประชาชนเข้าถึงกัญชาเพิ่มากขึ้นทั้งยังมีชองว่างของข้ออมูลคมรู้เกี่ยวกับารนำกัญชมาใช้อขงผูประกอบารธุรกจิอาหราการศึกษาครั้งนี้มีวตัถุประสงค์เพื่อศึกษาความรู้และทัศนคติกับการใช้กัญชาในาหารของผู้ประกอบการระเบียบวิธีการวิจัย:การวิจัยเชิงสำรวจแบบภาคตัดขวาง ดเนินการวิจัยในช่วงเดอืนมกราคม 2566 ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของโงรงพยาบาลส่งเสริมสุขาพภตำบลบ้านหัวโกรกตำเอเมอืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 16 คน ที่คัดเลือกแบบเจาะจงเก็บรวบรวมข้อมูลแบบผสมผสาน ข้อมูลเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามและข้อมูลเชิงคุณภาพใช้แบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติเชิงพรรณนาเด็กเด็กจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเรคาห์ข้อมูลเชิงคุณภาพผลการวิจัย:ผู้ประกอบการมีความรู้เกี่ยวกับกัญชาโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง มีทัศนคติเกี่ยวกับการใช้กัญชาอย่างเป็นกลาง ผลจากการสัมภาษณ์การใช้กัญชา พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่ใช้กัญชาในการประกอบอาหารเพราะอันตรายจากกัญชาต่อลูกค้าในแต่ละกลุ่มวัย กัญชาเป็นสารเสพติดและขอบเขตของกฎหมายไม่ชัดเจนเด็กเป็นเรอืองของฝีมอือการปรุงอาหารใช่การตลาดจาการใช้กัญชาไม่ควรนำมาใส่อาหารและการใช้ประโยชน์ของกัญชาด้านอื่นๆสรุปผล:ควรมีการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชาให้มากขึ้น และมีการบังคับใช้นโยบายที่ชัดเจนเกี่ยวกับปริมาณการใช้กัญชาในอาหาร เพื่อป้องกันการใช้กัญชาที่ไม่เหมาะสม
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。
求助全文
约1分钟内获得全文 去求助
来源期刊
自引率
0.00%
发文量
0
期刊最新文献
ปัจจัยการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อ ภาวะหมดไฟในการทำงานของครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิษณุโลก อุตรดิตถ์ แนวทางการพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก Storytelling in the Digital Age: How It Came to be and what should or Should Not Be Done ผลของการใช้กลวิธี REAP ที่มีต่อความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี
×
引用
GB/T 7714-2015
复制
MLA
复制
APA
复制
导出至
BibTeX EndNote RefMan NoteFirst NoteExpress
×
×
提示
您的信息不完整,为了账户安全,请先补充。
现在去补充
×
提示
您因"违规操作"
具体请查看互助需知
我知道了
×
提示
现在去查看 取消
×
提示
确定
0
微信
客服QQ
Book学术公众号 扫码关注我们
反馈
×
意见反馈
请填写您的意见或建议
请填写您的手机或邮箱
已复制链接
已复制链接
快去分享给好友吧!
我知道了
×
扫码分享
扫码分享
Book学术官方微信
Book学术文献互助
Book学术文献互助群
群 号:481959085
Book学术
文献互助 智能选刊 最新文献 互助须知 联系我们:info@booksci.cn
Book学术提供免费学术资源搜索服务,方便国内外学者检索中英文文献。致力于提供最便捷和优质的服务体验。
Copyright © 2023 Book学术 All rights reserved.
ghs 京公网安备 11010802042870号 京ICP备2023020795号-1