ปัญหาการกำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอมีอำนาจในการกำกับดูแล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายเทศบาล

เอกรินทร์ กุภาพันธ์, ตรีเพชร์ จิตรมหึมา
{"title":"ปัญหาการกำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอมีอำนาจในการกำกับดูแล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายเทศบาล","authors":"เอกรินทร์ กุภาพันธ์, ตรีเพชร์ จิตรมหึมา","doi":"10.60027/iarj.2024.274854","DOIUrl":null,"url":null,"abstract":"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: เทศบาลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอแล้วแต่กรณี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจสั่งให้นายกเทศมนตรีรองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่ง การกระทำของผู้กำกับดูแลจึงมีลักษณะเป็นคำสั่งทางปกครอง ซึ่งมีประเด็นที่ควรศึกษาถึงเหตุดังกล่าวว่าควรจะใช้หลักเกณฑ์ใด หรือควรให้อำนาจแก่ผู้กำกับดูแลมากน้อยเพียงใดในการกำกับดูแลเทศบาลจึงจะเหมาะสมกับหลักความเป็นอิสระ (Autonomy) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยพิจารณาหลักการกำกับดูแล รวมถึงการใช้ดุลพินิจของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการพิจารณาและสั่งให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่ง เพื่อหาแนวทางและนิติวิธีที่เกี่ยวกับรูปแบบการกำกับดูแลองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล) ที่เหมาะสมกับประเทศไทยให้มีความเป็นอิสระตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญ  \nระเบียบวิธีการวิจัย: วิจัยนี้เป็นการศึกษาในเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) ได้แก่ กฎหมาย หนังสือ วารสารวิชาการ บทความวิชาการ วิทยานิพนธ์ เอกสารงานวิจัย รวมทั้งข้อมูลเอกสารต่าง ๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ  นำมาวิเคราะห์และเสนอแนะตามประเด็นวัตถุประสงค์การวิจัย\nผลการวิจัย: การพิจารณาวินิจฉัยสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 73/1 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ควรให้องค์กรตุลาการหรือศาลปกครองเข้ามามีบทบาทในการพิทักษ์สิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญรับรองให้ ทั้งนี้ตามมาตรา 249 เพราะเหตุที่ว่าองค์กรตุลาการเป็นองค์กรผู้ใช้อำนาจอธิปไตยของรัฐและเป็นกลางไม่ได้ มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ ในเรื่องของการบริหารงานของเทศบาล ดังนั้น การให้ศาลปกครองชั้นต้นเข้ามาตรวจสอบและมีคำสั่งหรือคำพิพากษา กรณีที่นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี จงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้กับกับดูแลเป็นผู้ยื่นฟ้องคดี โดยคดีดังกล่าวควรกำหนดเป็นคดีปกครองพิเศษ จึงจะสอดคล้องกับหลักการการกำกับดูแลต้องทำเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อการคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นหรือประโยชน์ของประเทศเป็นส่วนรวม\nสรุปผล: ผลการวิจัยสรุปได้ว่าเพื่อให้เกิดความเป็นอิสระของเทศบาลอย่างแท้จริงและประกันหลักการการกำกับดูแลต้องทำเพียงเท่าที่จำเป็นควรยกเลิกพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 72 มาตรา 73 และมาตรา 73/1 เพื่อให้กรณีการสั่งให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่งไม่อยู่ภายใต้อำนาจขององค์กรของรัฐฝ่ายปกครองกล่าวคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้มีอำนาจในการฟ้องคดีปกครองพิเศษต่อศาลปกครองชั้นต้นที่มีเขตอำนาจ ทั้งนี้ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง","PeriodicalId":505621,"journal":{"name":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","volume":"21 8","pages":""},"PeriodicalIF":0.0000,"publicationDate":"2024-04-07","publicationTypes":"Journal Article","fieldsOfStudy":null,"isOpenAccess":false,"openAccessPdf":"","citationCount":"0","resultStr":"{\"title\":\"ปัญหาการกำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอมีอำนาจในการกำกับดูแล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายเทศบาล\",\"authors\":\"เอกรินทร์ กุภาพันธ์, ตรีเพชร์ จิตรมหึมา\",\"doi\":\"10.60027/iarj.2024.274854\",\"DOIUrl\":null,\"url\":null,\"abstract\":\"ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: เทศบาลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอแล้วแต่กรณี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจสั่งให้นายกเทศมนตรีรองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่ง การกระทำของผู้กำกับดูแลจึงมีลักษณะเป็นคำสั่งทางปกครอง ซึ่งมีประเด็นที่ควรศึกษาถึงเหตุดังกล่าวว่าควรจะใช้หลักเกณฑ์ใด หรือควรให้อำนาจแก่ผู้กำกับดูแลมากน้อยเพียงใดในการกำกับดูแลเทศบาลจึงจะเหมาะสมกับหลักความเป็นอิสระ (Autonomy) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยพิจารณาหลักการกำกับดูแล รวมถึงการใช้ดุลพินิจของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการพิจารณาและสั่งให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่ง เพื่อหาแนวทางและนิติวิธีที่เกี่ยวกับรูปแบบการกำกับดูแลองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล) ที่เหมาะสมกับประเทศไทยให้มีความเป็นอิสระตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญ  \\nระเบียบวิธีการวิจัย: วิจัยนี้เป็นการศึกษาในเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) ได้แก่ กฎหมาย หนังสือ วารสารวิชาการ บทความวิชาการ วิทยานิพนธ์ เอกสารงานวิจัย รวมทั้งข้อมูลเอกสารต่าง ๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ  นำมาวิเคราะห์และเสนอแนะตามประเด็นวัตถุประสงค์การวิจัย\\nผลการวิจัย: การพิจารณาวินิจฉัยสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 73/1 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ควรให้องค์กรตุลาการหรือศาลปกครองเข้ามามีบทบาทในการพิทักษ์สิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญรับรองให้ ทั้งนี้ตามมาตรา 249 เพราะเหตุที่ว่าองค์กรตุลาการเป็นองค์กรผู้ใช้อำนาจอธิปไตยของรัฐและเป็นกลางไม่ได้ มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ ในเรื่องของการบริหารงานของเทศบาล ดังนั้น การให้ศาลปกครองชั้นต้นเข้ามาตรวจสอบและมีคำสั่งหรือคำพิพากษา กรณีที่นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี จงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้กับกับดูแลเป็นผู้ยื่นฟ้องคดี โดยคดีดังกล่าวควรกำหนดเป็นคดีปกครองพิเศษ จึงจะสอดคล้องกับหลักการการกำกับดูแลต้องทำเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อการคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นหรือประโยชน์ของประเทศเป็นส่วนรวม\\nสรุปผล: ผลการวิจัยสรุปได้ว่าเพื่อให้เกิดความเป็นอิสระของเทศบาลอย่างแท้จริงและประกันหลักการการกำกับดูแลต้องทำเพียงเท่าที่จำเป็นควรยกเลิกพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 72 มาตรา 73 และมาตรา 73/1 เพื่อให้กรณีการสั่งให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่งไม่อยู่ภายใต้อำนาจขององค์กรของรัฐฝ่ายปกครองกล่าวคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้มีอำนาจในการฟ้องคดีปกครองพิเศษต่อศาลปกครองชั้นต้นที่มีเขตอำนาจ ทั้งนี้ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง\",\"PeriodicalId\":505621,\"journal\":{\"name\":\"Interdisciplinary Academic and Research Journal\",\"volume\":\"21 8\",\"pages\":\"\"},\"PeriodicalIF\":0.0000,\"publicationDate\":\"2024-04-07\",\"publicationTypes\":\"Journal Article\",\"fieldsOfStudy\":null,\"isOpenAccess\":false,\"openAccessPdf\":\"\",\"citationCount\":\"0\",\"resultStr\":null,\"platform\":\"Semanticscholar\",\"paperid\":null,\"PeriodicalName\":\"Interdisciplinary Academic and Research Journal\",\"FirstCategoryId\":\"1085\",\"ListUrlMain\":\"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.274854\",\"RegionNum\":0,\"RegionCategory\":null,\"ArticlePicture\":[],\"TitleCN\":null,\"AbstractTextCN\":null,\"PMCID\":null,\"EPubDate\":\"\",\"PubModel\":\"\",\"JCR\":\"\",\"JCRName\":\"\",\"Score\":null,\"Total\":0}","platform":"Semanticscholar","paperid":null,"PeriodicalName":"Interdisciplinary Academic and Research Journal","FirstCategoryId":"1085","ListUrlMain":"https://doi.org/10.60027/iarj.2024.274854","RegionNum":0,"RegionCategory":null,"ArticlePicture":[],"TitleCN":null,"AbstractTextCN":null,"PMCID":null,"EPubDate":"","PubModel":"","JCR":"","JCRName":"","Score":null,"Total":0}
引用次数: 0

摘要

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์:เทศบาลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ยอู่ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดหออนายอืำเภอแล้วกรณีโดยผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรี่วาการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจสั่งให้นายกเทศมนตรีรองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่งการระทำของผู้ำกกับดูแลจึงมีลักษณะเป็นคอสั่งทางปกครอง ซึ่งมีประเด็นที่ควรศึกษาถึเหตุดังกลาควรจะใช้หลักเกณฑ์ใดหรือควรใหอ้ำนาจแก่ผู้ำกับดูแลมากน้อยเพียงใดในการำกับูดแเลทศบาลจึงจะเหมาสมกับหลักควาเป็นิสระ(Autonomy) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยพิจารณาหลักการกำกับดูแล รวมถึงการใช้ดุลพินิจของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการพิจารณาและสั่งให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรีพ้นจากตำแหน่ง เพื่อหาแนวทางและนิติวิธีที่เกี่ยวกับรูปแบบการกำกับดูแลองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล) ที่เหมาะสมกับประเทศไทยให้มีความเป็นอิสระตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญ ระเบียบวิธีการวิจัย:วิจัยนี้เป็นการศึกษาในเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) ได้แก่ กฎหมาย หนังสือ วารสาวิชาการ บทความวิชาการ วิทยานิพนธ์เอกสารงานวิจัย รวมทั้งข้อมูลเอกสารต่าง ๆ ทั้งภาษาไทยและาภษาต่างประเทศ นำมาวิเคราหะ์และเสนอแนตะามประเด็นวัตถุประสงค์การวิจัยผลการวิจัย:การพิจารณาวินิจฉัยสั่งการของผู้่วาราชการจังหวัดหอืรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตีร พ้นจากตำแหน่งตามาตรา 73/1 แห่งพระาชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.2496 ควรให้องค์กรตุลาการหรือศาลปกครองเข้ามาีบทบาทในการพิทักษ์สิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรมนูญรับรองให้249 เพราะเหตุที่ว่าองค์กรตุลาการเป็นองค์กรผู้ใชอ้ำนาจอธิปตไยของรัฐและเป็นกลางไมได้มีส่วนเสียใด เLm_E46↩ ในเรื่องขงกอารบริหารงานของเทศบาล ดังนั้น การให้ศาลปกครองชันต้นเข้ามาตรวจสอบและมคีำสั่งหรือคำพิพากษา กรณีที่นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรีจงใจทอดทิ้งหอือปฏบัติการตามอำนาจหนาที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหนาที่หรอืประพฤติตนฝ่าหืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้ักบกับดูแลเป็นผู้ยื่นฟ้องคดีโดยคดีดังกล่าวควรกำหนดเป็นคดีปกครองพิเศษ จึงจะสอดคล้องกับหลักการการกำกับดูแลต้องทำเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อการคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นหรือประโยชน์ของประเทศเป็นส่วนรวมสรุปผล:ศ.2496 มาตรา 72 มาตรา 73 และมาตรา 73/1 เพื่อให้ากรณีการสั่งให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรีพ้นจากตำผ루밟
本文章由计算机程序翻译,如有差异,请以英文原文为准。
查看原文
分享 分享
微信好友 朋友圈 QQ好友 复制链接
本刊更多论文
ปัญหาการกำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอมีอำนาจในการกำกับดูแล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตามกฎหมายเทศบาล
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: เทศบาลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอแล้วแต่กรณี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีอำนาจสั่งให้นายกเทศมนตรีรองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่ง การกระทำของผู้กำกับดูแลจึงมีลักษณะเป็นคำสั่งทางปกครอง ซึ่งมีประเด็นที่ควรศึกษาถึงเหตุดังกล่าวว่าควรจะใช้หลักเกณฑ์ใด หรือควรให้อำนาจแก่ผู้กำกับดูแลมากน้อยเพียงใดในการกำกับดูแลเทศบาลจึงจะเหมาะสมกับหลักความเป็นอิสระ (Autonomy) ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยพิจารณาหลักการกำกับดูแล รวมถึงการใช้ดุลพินิจของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการพิจารณาและสั่งให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่ง เพื่อหาแนวทางและนิติวิธีที่เกี่ยวกับรูปแบบการกำกับดูแลองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล) ที่เหมาะสมกับประเทศไทยให้มีความเป็นอิสระตามเจตจำนงของรัฐธรรมนูญ   ระเบียบวิธีการวิจัย: วิจัยนี้เป็นการศึกษาในเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) และวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) ได้แก่ กฎหมาย หนังสือ วารสารวิชาการ บทความวิชาการ วิทยานิพนธ์ เอกสารงานวิจัย รวมทั้งข้อมูลเอกสารต่าง ๆ ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ  นำมาวิเคราะห์และเสนอแนะตามประเด็นวัตถุประสงค์การวิจัย ผลการวิจัย: การพิจารณาวินิจฉัยสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่งตามมาตรา 73/1 แห่งพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 ควรให้องค์กรตุลาการหรือศาลปกครองเข้ามามีบทบาทในการพิทักษ์สิทธิขั้นพื้นฐานที่รัฐธรรมนูญรับรองให้ ทั้งนี้ตามมาตรา 249 เพราะเหตุที่ว่าองค์กรตุลาการเป็นองค์กรผู้ใช้อำนาจอธิปไตยของรัฐและเป็นกลางไม่ได้ มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ ในเรื่องของการบริหารงานของเทศบาล ดังนั้น การให้ศาลปกครองชั้นต้นเข้ามาตรวจสอบและมีคำสั่งหรือคำพิพากษา กรณีที่นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี จงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่อันจะเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้กับกับดูแลเป็นผู้ยื่นฟ้องคดี โดยคดีดังกล่าวควรกำหนดเป็นคดีปกครองพิเศษ จึงจะสอดคล้องกับหลักการการกำกับดูแลต้องทำเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อการคุ้มครองประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นหรือประโยชน์ของประเทศเป็นส่วนรวม สรุปผล: ผลการวิจัยสรุปได้ว่าเพื่อให้เกิดความเป็นอิสระของเทศบาลอย่างแท้จริงและประกันหลักการการกำกับดูแลต้องทำเพียงเท่าที่จำเป็นควรยกเลิกพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 72 มาตรา 73 และมาตรา 73/1 เพื่อให้กรณีการสั่งให้นายกเทศมนตรี รองนายกเทศมนตรี พ้นจากตำแหน่งไม่อยู่ภายใต้อำนาจขององค์กรของรัฐฝ่ายปกครองกล่าวคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แต่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้มีอำนาจในการฟ้องคดีปกครองพิเศษต่อศาลปกครองชั้นต้นที่มีเขตอำนาจ ทั้งนี้ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง
求助全文
通过发布文献求助,成功后即可免费获取论文全文。 去求助
来源期刊
自引率
0.00%
发文量
0
期刊最新文献
ปัจจัยการเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อ ภาวะหมดไฟในการทำงานของครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิษณุโลก อุตรดิตถ์ แนวทางการพัฒนาศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก Storytelling in the Digital Age: How It Came to be and what should or Should Not Be Done ผลของการใช้กลวิธี REAP ที่มีต่อความสามารถในการอ่านเชิงวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ของผู้บริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัลสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานนทบุรี
×
引用
GB/T 7714-2015
复制
MLA
复制
APA
复制
导出至
BibTeX EndNote RefMan NoteFirst NoteExpress
×
×
提示
您的信息不完整,为了账户安全,请先补充。
现在去补充
×
提示
您因"违规操作"
具体请查看互助需知
我知道了
×
提示
现在去查看 取消
×
提示
确定
0
微信
客服QQ
Book学术公众号 扫码关注我们
反馈
×
意见反馈
请填写您的意见或建议
请填写您的手机或邮箱
已复制链接
已复制链接
快去分享给好友吧!
我知道了
×
扫码分享
扫码分享
Book学术官方微信
Book学术文献互助
Book学术文献互助群
群 号:481959085
Book学术
文献互助 智能选刊 最新文献 互助须知 联系我们:info@booksci.cn
Book学术提供免费学术资源搜索服务,方便国内外学者检索中英文文献。致力于提供最便捷和优质的服务体验。
Copyright © 2023 Book学术 All rights reserved.
ghs 京公网安备 11010802042870号 京ICP备2023020795号-1